วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

สารคดีประวัติศาสตร์ (เขียนแผ่นดิน)
เรื่อง ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณ ทุ่งมะขามหย่องจารึกวีรกษัตรีย์ศรีสุริโยทัย
โดย กลุ่มไทยสารคดี
เวลา 30 นาที
ภาพ
เสียง
LS ป้ายพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย


LS ทางเข้าพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัย
MS พิธีกรหันหน้าคุยกับกล้อง













ELS ภาพอนุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยระยะไกล


De-Focus ภาพสมเด็จพระศรีสุริโยทัยกำลังสู้รบกับข้าศึก
(เพลง อยุธยารำลึก)


(เพลง อยุธยารำลึก Fade in)
บรรยาย
สวัสดีครับท่านผู้ชมที่เคารพ เข้าสู่รายการเขียนแผ่นดิน รายการที่นำเสนอเรื่องราวสาระที่เป็นความทรงจำของคนในชาติถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังหวนรำลึกอีกครั้ง ในวันนี้ทางรายการขอนำเสนอในตอน ผืนแผ่นดินแห่งพระมหากรุณาธิคุณทุ่งมะขามหย่องจารึกวีรกษัตรีย์ศรีสุริโยทัย อนุสรณ์แห่งความกล้าหาญแม้ร่างกายจะเป็นหญิง แต่มีหัวใจเด็ดเดี่ยวไม่แพ้ผู้ชาย ยอมพลีเลือดเนื้อทาทาบเพื่อปกป้องสยามประเทศให้รอดพ้นอริราชศัตรู
(เพลง อยุธยารำลึก/เสียงเดิน Fade out)


(เสียงข้าศึกรบกัน)
ครับ สำหรับพื้นที่บริเวณ ทุ่งมะขามหย่องนั้น ถือว่าเป็นพื้นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์พระศรีสุริโยทัย      ผู้เป็นพระอัยกีแห่งมหาราชของไทย นามสมเด็จพระนเรศวร ผู้ทรงประกาศชัยชนะกู้แผ่นดินอโยธยาเหนือชาวพม่ารามัญศัตรูผู้เป็นเสมือนหอกข้างแคร่คอยทิ่มแทงย่ำยีชาวสยามเรื่อยมา ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะเมื่อครั้งอดีต ทุ่งมะขามหย่องแห่งนี้ เป็นบริเวณสมรภูมิที่เหล่าวีรกษัตริย์ บรรพชนผู้กล้า ยืนหยัดต่อสู้เอาเลือดเนื้อทาทาบแผ่นดินหวังเพียงหนึ่งเดียวให้อาณาจักรของสยามประเทศเป็นปึกแผ่นให้ลูกหลานได้อยู่อาศัยจนชั่วลูกชั่วหลาน และศึกที่สำคัญที่จารึกและมีอนุสรณ์จนถึงบัดนี้ คือ เมื่อครั้งที่กองทัพไทยปะทะกับทัพพม่าในศึกที่พระศรีสุริโยทัยสิ้นพระชนม์บนคอช้าง
PKG ภาพจำลองประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา
MS ภาพพระเจ้าตะเบงชะเวตี้นั่งบัลลังค์กรุงหงสาวดี

MS ภาพพระเจ้าตะเบงชะเวตี้นั่งบนช้างศึก เพื่อออกรบ



MS ภาพสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์และสมเด็จพระศรีสุริโยทัยจัดทัพเตรียมรับข้าศึก
บทบรรยาย
พุทธศักราช 2091 เมื่อสมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้ผ่านพิภพเหนือแผ่นดินอโยธยาได้เพียง 7 เดือน พระเจ้าหงสาวดีตะเบงชะเวตี้ (มังตรา) หรือพระเจ้ากรุงหงสาวดีลิ้นดำ เสด็จกรีธาทัพบุกตะลุยเข้ามาในอาณาจักรกรุงศรีอยุธยาและตั้งทัพมั่นคงที่ตำบลลุมพลีใกล้ชานพระนครศรีอยุธยา หวังพิชิตศึกล้างอาย เผยแพร่พระเกียรติยศให้ปรากฏไปทั่วดินแดนไทย
ส่วนฟากกรุงอโยธยามีสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ทรงเป็นจอมทัพหวังให้ไพร่พลมีขวัญกำลังใจและปกป้องขอบเขตขัณฑสีมาให้พ้นมือไพรี การนี้สมเด็จพระศรีสุริโยทัยเอกอัครมเหสีทรงห่วงเกรงพระราช-สวามีจะมีภัย หากเป็นเช่นนั้นอโยธยาคงมิพ้นพินาศจึงขอตามเสด็จไปในการศึกครั้งนี้ด้วย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ได้ทรงท้วงติง สมเด็จพระศรีสุริโยทัยเป็นหลายครั้งหลายหนว่าการโดยเสด็จออกสู่สนามยุทธนั้น มากไปด้วยภยันตรายร้ายแรงรอบด้าน แต่พระศรีสุริโยทัยเอกอัครมเหสีแกล่นแกล้ว และจงรักภักดีต่อพระราชสวามียิ่งสิ่งใด ยังคงทูลยืนกรานในอันที่จะโดยเสด็จออกสู่สนามยุทธอยู่อย่างเด็ดเดี่ยว และทรงเครื่องพิชัยยุทธเยี่ยงบุรุษชาติอาชาไนย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิจึงมิอาจทรงทัดทานประการใดได้
PKG ภาพจำลองประวัติศาสตร์บริเวณทุ่งมะขามหย่อง
MS ภาพข้าศึกทั้งสองฝ่ายเริ่มรบกันอย่างมิกลัวตาย









MS ภาพสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสียทีแก่พระเจ้า
แปร





MS ภาพสมเด็จพระสุริโยทัยทรงเข้าขวางพระเจ้าแปรและถูกฟันด้วยของ้าวจนสิ้นพระชนม์
บทบรรยาย
พอทัพไทยเคลื่อนกระบวนไปถึงกองทัพม้าภายใต้การนำของบุเรงนองยอดขุนศึกพม่า ก็ยกออกจากที่ซุ่มเข้าทำการโจมตีทันทีทัพม้าอโยธยาก็เข้าต่อยุทธด้วย และรุกกระหน่ำเอาอย่างได้เชิง ทัพพม่าก็ถอยล่อให้ไทยระเริงใจไปตามแผนกลศึกทัพหลวงใต้บัญชาการของสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ก็ทรงเคลื่อนกระบวนหนุนเนื่องตามตีอย่างไม่รอรั้ง
พระเจ้าแปรกองหน้าเผชิญศึกก็นำทัพออกปะทะทัพกรุงศรีอยุธยาไว้ ไม่ยอมให้ทัพไทยหนุนกองทัพม้าไปได้ การต่อสู้จึงเกิดขึ้นอย่างยอมพลีชีวิตให้แก่ปิตุชาติมาตุภูมิของตน
(SB เสียงปืนใหญ่ เสียงปืน เสียงระเบิด)
สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์ทรงไสช้างพระที่นั่งเข้ากระทำการยุทธหัตถีกับพระเจ้าแปรเยี่ยงวีกษัตริย์ชาตินักรบ ช้างพระที่นั่งสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ์เสียเชิงช้างพระเจ้าแปร ถึงแก่เบนช้างให้ สมเด็จพระศรีสุริโยทัยทรงเห็นพระราชสวามีใกล้อันตรายต่อคมพระแสงของ้าวของพระเจ้าแปร ก็ทรงไสช้างพระที่นั่งเข้าขวางพระเจ้าแปรไว้ ประจวบกับพระเจ้าแปรทรงฟาดพระแสงของ้าวมายามได้เชิง สมเด็จพระศรีสุริโยทัยถูกพระเจ้าแปรฟันด้วยพระแสงของ้าว ต้องพระอังสาตรงพระอุระเบื้องพระยุคลถันถึงขาดสะพายแล่ง สิ้นพระชนม์บนคอช้างท่ามกลางข้าศึก พระราเมศวรกับพระมหินทร์ราชโอรสต่างขับช้างเข้ากันพระศพสมเด็จพระราชชนนีไว้ การศึกไม่มีแพ้ชนะแก่กันจึงต่างถอยทัพในวันนั้น นี่จึงเห็นได้ว่าแม้องค์สุริโยทัยจะเป็นหญิงที่อยู่ในราชสำนักชั้นสูงรั้งตำแหน่งอัครมเหสีแห่งอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา แต่พระองค์หาได้ทรงหวาดกลัวข้าศึกไม่ เลือดแห่งขัตติยะนารีเปี่ยมล้น ทรงแลกพระชนชีพเสี่ยงพระวรกายต่อคมอาวุธยอมแลกเพื่อองค์ราชันย์ผู้เป็นขวัญกำลังใจของประชาราษฎร์ให้อยู่สืบไป ศึกครั้งนี้ทำให้กษัตริย์รามัญพม่าตระหนักว่าคนไทยนั้นรักชาติยิ่งชีพต่อสู้โดยไม่เสียดายชีวิต แม้จะเป็นเพศหญิงที่อ่อนแอกว่า จึงยอมล่าถอยทัพกลับหงสาวดี แต่ทั้งนี้ทำให้คนไทยเสียปิ่นอนงค์แห่งกรุงศรีอยุธยาอย่างไม่มีวันกลับ สร้างความโทมนัสต่อปวงไทยทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ส่วนบริเวณที่สู้รบก็คือบริเวณทุ่งมะขามหย่องนั้นเอง และด้วยเหตุที่ ทุ่งมะขามหย่องจึงเป็นสมรภูมิที่จารึกความกล้าหาญของวีรกษัตรีย์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อย่างยิ่ง
(Fade in/out เพลงสยามานุสติ)
MS พิธีกรยืนพูด มีฉากหลังเป็นภาพ CU พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยระยะใกล้
MS ภาพพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยมุมต่าง ๆ










MS ภาพทัศนียภาพโดยรอบของอ่างเก็บน้ำ


บทพูด
สำหรับอนุสาวรีย์สมเด็จพระสุริโยทัยนั้น ภายในมีพระรูปสมเด็จพระสุริโยทัยหล่อด้วยสำริด มีขนาดหนึ่งเท่าครึ่งขององค์จริงประทับบนหลังพระคชาธาร พร้อมด้วยกลุ่มอนุสาวรีย์ประติมากรรมประกอบกันทั้งสิ้น 49 ชิ้น และมีประติมากรรมจำลองประวัติศาสตร์เป็นพระอนุสาวรีย์ประดิษฐานพระรูปสมเด็จพระสุริโยทัย วีรกษัตรีย์ไทยสมัยอยุธยา ตั้งอยู่ที่บริเวณทุ่งมะขามหย่อง ตำบลบ้านใหม่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่ประมาณ 250 ไร่ มีลักษณะเป็นอนุสรณ์สถาน ประกอบด้วยพระราชานุสาวรีย์ช้างทรงของสมเด็จพระสุริโยทัย มีนักรบจาตุรงคบาทพรั่งพร้อมด้วยเครื่องทรงบนคชาธารศึกครบครัน หล่อปั้นได้อย่างประหนึ่งมีชีวิตที่คอยปกป้องลูกหลานให้พ้นภัยพาลเรื่อยมา ซึ่งตั้งอยู่บนเกาะกลางน้ำ พื้นที่จำลองค่ายข้าศึกอริราชศัตรูและกองทัพข้าศึก 4 ทัพ ทางด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ของพื้นที่อ่างเก็บน้ำมีเนื้อที่ราว 180 ไร่ จุน้ำราว 1,000,000 ลูกบาศก์เมตร อาคารอเนกประสงค์ และสวนสาธารณะริมอ่างเก็บน้ำ ที่ทางราชการได้จัดทัศนียภาพให้ผู้ชมได้พักผ่อนอย่างสวยงาม
LS ภาพพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยในหลาย ๆ มุมและภาพประชาชนทั่วไปที่มาท่องเที่ยว






MS ภาพพิธีกรภาพ CU พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยระยะใกล้
MS ภาพพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีสุริโยทัยมุมต่าง ๆ
บรรบาย
ปัจจุบันบริเวณ ทุ่งมะขามหย่องจัดว่าเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของประชาชน พร้อมทั้งเป็นแหล่งกักเก็บน้ำขนาดใหญ่เพื่อสำหรับใช้ในการเกษตร ซึ่งในวันนี้ทุ่งมะขามหย่องก็ได้เป็นดังทุ่งทองที่รองรับความเดือดร้อนของประชาชนจากกระแสน้ำ อันเนื่องมาจากพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้จากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อาจกล่าวได้ว่าทุ่งมะขามหย่องเมื่อครั้งกาลอดีตนั้นเป็นที่รองรับน้ำเลือด น้ำเหงื่อ และน้ำใจอันรักชาติของบรรพชนผู้กล้าที่ยอมพลีชีวิตเพื่อปกบ้านป้องเมือง ยอมพลีร่างกายเพื่อทับถมให้แผ่นดินสูงขึ้นหวังให้ลูกหลานได้ยืดกายอยู่อาศัย สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบันทุ่งมะขามหย่องแห่งนี้ก็ยังเป็นที่รองรับน้ำเหนือที่ไหลบ่าท่วมให้ชนทนทุกข์ แต่ยิ่งกว่านั้นเป็นที่รองรับกักเก็บน้ำพระราชหฤทัยที่คอยหล่อเลี้ยงให้ชนชาวไทยมีความสุข นับได้ว่าทุ่งมะขามหย่องมิเคยสิ้นคุณ คอยตอบแทนประชาชนเรื่อยมาแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และอาจสืบจนถึงกาลเบื้องหน้า สำหรับรายการเขียนแผ่นดินวันนี้ลาท่านผู้ชมไปก่อน พบกันใหม่โอกาสหน้าสวัสดีครับ
(Fade in/out เพลงอยุธยา)



ผู้จัดทำ

นางสาวภัคฐิชา                 ทยานศิลป์    รหัส ๕๒๑๑๒๕๒๐๐๐๕
นางสาวสุพัชรี                   พัดลม         รหัส ๕๒๑๑๒๕๒๐๐๑๔
นายกฤษ                          คล้ายแก้ว     รหัส ๕๒๑๑๒๕๒๐๐๒๓
นายชัยภัทร                      บุรีรักษ์        รหัส ๕๒๑๑๒๕๒๐๐๒๗
นางสาวนิพา                     จันทร์ดารา   รหัส ๕๒๑๑๒๕๒๐๐๒๘
          นางสาวมารยาท                สกุลเต็ม       รหัส ๕๒๑๑๒๕๒๐๐๖๖

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

สารคดีท่องเที่ยวทางวิทยุโทรทัศน์

สารคดีท่องเที่ยวทางวิทยุโทรทัศน์
เรื่อง  สู่เส้นทาง ตำนานแห่งรัก ณ วัดมหาบุศย์

ลำดับ
ภาพ
คำบรรยาย/เสียง

เวลา
เทคนิค/คำสั่งพิเศษ

1.


   วัดมหาบุศย์ ถ้าบางท่านได้ยินชื่อคงแปลกใจว่าวัดนี้มีอะไรพิเศษ หากบอกว่าเป็นวัดที่ฝังร่างของแม่นาค หรือนางนาคพระโขนง นางที่ยึดมั่นในความรักแม้ตัวเองจะไร้ชีวิต ไร้ร่างกาย แต่เหลือเพียงจิตวิญญาณที่มากล้นด้วยความรัก เล่าขานเป็นตำนานมาตราบจนทุกวันนี้ ครั้งนี้ขอพาเที่ยววัดมหาบุศย์พร้อมเรื่องราวเกี่ยวกับตำนานความรักของแม่นาคพระโขนง            

0.0.20
ELS ภาพทางเข้าวัด ระยะไกล






Fade out
ภาพจางหาย

2.













  











      วัดมหาบุศย์ เป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย พ.ศ. ๒๓๐๕ ก่อนเสียกรุงเก่าเพียง ๕ ปี เล่ากันว่าเดิมชื่อวัดสามบุตร ต่อมามีสภาพเป็นวัดร้าง เมื่อพระมหาบุตร เปรียญ ๕ ประโยค สำนักวัดเลียบ ได้มาเยี่ยมญาติโยมซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในริมคลองพระโขนง ในเวลานั้นบรรดาชาวบ้านพระโขนงจึงได้พร้อมใจกันนิมนต์ให้ท่านอยู่วัดสามบุตร เพื่อเป็นผู้นำในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดเรียบร้อย ชาวบ้านจึงเปลี่ยนชื่อใหม่จากวัดสามบุตร เป็นวัดมหาบุตร ตามนามของพระมหาบุตร ภายหลังได้เปลี่ยนแปลงไปตามความเจริญของภาษาไทย จึงได้เขียนชื่อเป็นทางราชการว่า วัดมหาบุศย์ดังที่เห็นและใช้
0.0.40














Fade in ภาพโบสถ์ในวัด












CG “วัดมหาบุศย์”




ตราบจนทุกวันนี้ เป็นวัดที่เล่าสืบต่อกันมาว่าเป็นวัดที่ฝังร่างของนางนาค หรือคนแถวนี้เรียกกันว่าย่านาค หรืออีกชื่อที่คนไทยรู้จักกันดีผ่านจอแก้วและจอเงินหลายเวอร์ชั่นคือ แม่นาคพระโขนง



3.

   ศาลย่านาคตั้งอยู่ริมน้ำคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งมี ศาลย่านาคตั้งอยู่ เมื่อพวกเราเข้ามาถึงเห็นผู้คนมากมายมาจุดธูปจุดเทียนขอพรจากย่านาค ส่วนมากจะเป็นคู่ชายหญิงที่หวังมาขอพรให้รักนั้นสมหวัง ศาลย่านาคนั้นเป็นศาลที่ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากนัก ภายในตัวศาลค่อนข้างเงียบและสะอาดตาเพราะมีเจ้าหน้าที่ค่อยดูแลเป็นอย่างดี แต่ก็รับรู้ได้ถึงความขลัง ที่หากกล่าวโดยตรงแล้วน่าขนลุก  
0.0.15
Wipe จากภาพเดิมเป็นภาพหน้าศาลย่านาค

4.


   ในวิหารหลวงพ่อยิ้มลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ผู้ที่สักการะหลวงพ่อยิ้มส่วนใหญ่มักจะเสี่ยงเสียมซีไปพร้อมๆกันด้วย 
0.0.10
CU ภาพวิหารระยะใกล้
CG “วิหารหลวงพ่อยิ้ม”

5.



 ถัดจากวิหารหลวงพ่อยิ้มไปเป็น อุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมภายในประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ตั้งอยู่กลางแจ้งแต่มากด้วยร่มไม้ทำให้ดูร่มรื่นสบายตา

0.0.10
ECU ภาพอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิม

6.



  




การบูชาย่านาคนั้นใช้ธูปสองดอกในการบูชา ดอกไม้ พวงมาลัย แผ่นทองคำเปลวอย่างละหนึ่ง เข้าไปไหว้โดยสังเกตจากคนก่อนที่เข้าไป
0.0.10



LS ภาพข้างศาลย่านาค




7.











































สามีภรรยาที่รักกันมากคู่หนึ่งอาศัยอยู่ริมคลองวัดมหาบุศย์เขตพระโขนง ภรรยาชื่อนาค สามีชื่อทิดมาก ทั้งคู่ปลูกเรือนหลังเล็กๆ อยู่ห่างไกลจากผู้คนมาพอสมควร เมื่ออยู่กันได้ไม่นานนางนาคก็ตั้งท้องขณะที่บ้านเมืองกำลังเกิดศึกสงคราม ทิดมากจึงถูกเกณฑ์ให้ไปเป็นทหาร และต้องออกรบยังต่างเมือง ไม่นานนางนาคก็คลอดลูกกับหมอตำแยโดยทิดมากไม่ได้อยู่ดูแล โชคร้ายที่นางนาคเจ็บท้องจนทนไม่ไหวจึงสิ้นใจตายพร้อมลูกในท้องในเวลาต่อมา แต่ด้วยความรักที่มีต่อผัวจึงไม่ยอมไปผุดไปเกิด และรอวันที่ผัวจะกลับมา ระหว่างนั้นก็เที่ยวหลอกหลอนชาวบ้านจนหวาดกลัวไปทั่ว                                      
วันขึ้น ๑๕ ค่ำ ทิดมากกลับมาในเวลาพลบค่ำแต่ก็ยังพอเห็นทางเดินแบบลางๆ เนื่องจากเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวง เมื่อถึงบ้านก็เห็นแม่นาคนั่งร้องเพลงกล่อมลูกอยู่ที่เรือนชานก็รู้สึกดีใจรีบวิ่งไปหาลูกเมีย แต่ต้องสะดุ้งสุดตัวที่ร่างกายนางนาคเย็นผิดปกติ ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมากนัก ระหว่างนั้นแม่นาคก็จัดแจงยกสำรับกับข้าวออกมาให้ผัวกินและก็บังเอิญที่ทิดมากทำช้อนตกลงพื้นเรือนแม่นาคจึงเอื้อมมือไปเก็บอย่างรวดเร็วทำให้ทิดมากรู้สึกแปลกใจ ต่อมาชาวบ้านก็แอบกระซิบบอกทิดมากว่านางนาคได้ตายไปนานแล้วและตายทั้งกลมด้วย ที่พ่อมากเห็นแม่นาคอุ้มลูกน้อยนั้นเป็นผี ไม่ไช่คน ประกอบกับตนเองก็เห็นพฤติกรรมแปลกๆอยู่หลายครั้ง จึงตัดสินใจหนีไปอาศัยอยู่ที่วัดมหาบุศย์ ทำให้นางนาคต้องออกติดตามหาผัว พร้อมกับเที่ยวหลอกหลอนชาวบ้านด้วยความโกรธแค้น จนไม่มีใครกล้าเดินผ่านวัด สร้างความเดือดร้อนเดือดร้อนไปทั่ว ต่อมาชาวบ้านได้ไปตามหมอผีมาปราบ และจับวิญญาณแม่นาคใส่หม้อดินไปถ่วงน้ำ พร้อมกับอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณไปผุดไปเกิด ไม่ต้องมาวนเวียนหลอกหลอนชาวบ้านอีกต่อไป

0.03
De-Focus ภาพหน้าศาลย่านาค
SOT เสียงบันทึกการสัมภาษณ์ประวัติ



































8.


นี่เป็นเพียงหนึ่งในตำนานแม่นาคพระโขนงที่เล่าสืบต่อๆ กันมา ส่วนจะเป็นจริงหรือเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นมาก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้ และใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ที่ตำนานแม่นาคพระโขนงคงความอมตะมาจนถึงทุกวันนี้ได้ นอกจากเรื่องชวนขนหัวลุกแล้ว ตำนานแห่งความรักที่มั่นคงของแม่นาคต่อทิดมากนั้นถือเป็นหนึ่งในตำนานรักอมตะของเมืองไทยที่น่าเทิดทูนยกย่องเป็นอย่างยิ่ง
...ความตายแม้จะเป็นตัวกำหนดให้พรากจากทุกสิ่งทุกอย่าง แต่ความรักของแม่นาคนั้นยังไม่มีสิ่งใดมาพรากไปแม้แตความตายก็ตาม...
   หวังว่าวันหน้าฟ้าใหม่จะได้กลับมาเยี่ยมเยือนอนุสรณ์ของความรักที่ไม่มีวันตายครั้งนี้อีก

0.01
VO/SIL เสียงผู้บรรยายพร้อมกับการนำเสนอภาพย่านาค


จัดทำโดย 

นางสาวภัคฐิชา  ทยานศิลป์   52112520005

นางสาวสุพัชรี    พัดลม           52112520014

นายกฤษ              คล้ายแก้ว     52112520023

นายชัยภัทร         บุรีรักษ์          52112520027

นางสาวนิพา       จันทร์ดารา  52112520028

นางสาวมารยาท  สกุลเต็ม     52112520066