บทความสารคดี เรื่อง
ผัวเขาเราไม่เกี่ยว แต่นี่ผัวกู
ว่ากันว่าผู้ชายมี 2 แบบ
แบบแรก “เลวสุด” แล้วกลับกลายเป็นเสือถอดเขี้ยวหรือแมวนอดในบั้นปลาย
แบบที่สอง “ดีสุด” และกลายเป็นเลวสุดขั้วในบั้นปลาย
มองไปที่ทุกข์ของเขา เราไม่เกี่ยวก็ประมาณว่า....
แบบแรก มันก็ทุกข์ทรมานตั้งแต่ต้น กลาง แต่ซาบซึ้งในความดีงามแห่งความอดทนในตอนท้าย ขึ้นอยู่กับระยะเวลา บุญกรรมนำสร้างความดีก็เลยจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง เข้าข่ายรางวัลแห่งการทนและอยู่ทน อิ ๆ
แบบหลัง เราชักจะเข้ามาเกี่ยวเต็ม ๆ แล้วล่ะ เนื่องด้วยการเห็นโลกทุกข์ของชาวบ้านมาเยอะ เลยพอจะมีภูมิคุ้มกันไว้บ้างพอเป็นกระสาย
อันว่า “พ่อบ้าน” ที่น่ารักของฉันปัจจุบันเป็นถึงข้าราชการระดับสูงประจำจังหวัด ในอดีตเหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ เห็นผู้หญิงแซวอายม้วนไปมา ที่ได้เมียก็เพราะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.4-ม.5 จับพลัดจับผลูหาใครจีบไม่ได้ก็เลยมองซ้ายมองขวา เอาละวะ... เพื่อนก็เพื่อน เสียเพื่อนไปแต่ได้แฟนมาคนนึงก็โอนะคะ
เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียน เริ่มคบหาดูใจอีตอนเข้ามหาวิทยาลัย กระทั่งพ่อพระเอกของฉันจบจากสถาบันอันทรงเกียรติแห่งหนึ่ง เราก็ต้งหน้าตั้งตาทำงานช่วยกันเก็บเงินราว 4-5 ปี และแล้วระฆังวิวาห์ก็ลั่น โอ๊ยยย...โลกทั้งใบเป็นของฉันและเธอ
หลังจากแต่งงาน ฉันก็เป็นแม่พันธ์ที่มีคุณภาพชั้นดีมาก ๆ อิ ๆ สามารถคลอดลูกก่อนกำหนดได้ภายใน 7 เดือน แถมยังสมบูรณ์แข็งแรงมาก 1 คน เป็นผู้ชายรูปหล่อ ถอดแบบพ่อมาเด๊ะ ๆ และความพยายามต่อไป คือมีทายาทหญิงอีก 1 คน และแล้วอีกราว ๆ 2 ปีต่อมาเราก็ประสบความสำเร็จ ได้อนาคตสาวงามน่ารักหลุดมาดูโลกอีก 1 ราย และมีเค้าว่าสวยเหมือนแม่แบบไม่มีที่จับที่วาง อิ ๆ
ชีวิตคู่มีความสุขมาก ต่างคนต่างภูมิใจในอาชีพทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ตัวฉันเองทำงานพิเศษอื่น ๆ อีกหลายงาน เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในหลายอาชีพทั้งขายตรงเอย ขายไม่ตรงเอย ประกันชีวิตเอย เป็นนักเก็บเงินตัวยงการใช้เงินประหยัด กระเหม็ดกระแหม่เข้าข่ายเหนียวแน่นมากเพื่ออนาคตครอบครัวในวันหน้า ซึ่งในวันนี้ฉันและซาบซึ้งกับคำว่า “เงิน” ว่ามันไม่ใช่คำตอบของทุกสิ่งทุกอย่าง ชักจะมีเค้าลางมาให้เห็นกันจะจะซะแล้ว
ในวันที่เรามีบ้าน 2 หลัง รถ 2 คัน ลูก 2 คน คุณ ๆ ลองทายกันซิคะว่าอะไรอีกต่อไปที่จะมี 2 ได้ คุณทายถูกแล้วค่ะ ความน่าแปลกใจเริ่มมาเยือน พ่อบ้านเริ่มสังสรรค์หนักขึ้นกลับ 2 ทุ่ม ต่อมาก็กลับตี 2 ตี 3 ตี 4 เอ๊า กลับมาให้ลูกเห็นหน้าก่อนไปโรงเรียนก็ยังดีนะคะ ท้ายที่สุดเริ่มหายไม่กลับมาบ้าน แจ้งเหตุว่าเมาหลับในรถ และด้วยคำว่า “เราต้องเชื่อใจและให้เกียรติซึ่งกันและกัน” มันชักจะใช้ไม่ได้ผลซะกระมังคะ
ท้ายที่สุดวันที่ต้องรับทราบความจริงก็มาถึง คือวันที่พ่อบ้านกลับมาถึงเที่ยงวันของเช้าวันใหม่อีกเป็นครั้งที่สาม เราต้องอาศัยพูดคุยกันในรถซึ่งเป็นส่วนตัวที่สุด ฉันสงบนิ่งรอฟังคำอธิบาย และเขาก็พูดว่า
“ชีวิตครอบครัวเราถือว่าสมบูรณ์แบบเต็มร้อย ชีวิตก็ไม่รู้ว่าจะเหลือยาวนานเพียงใด ปีหน้าโลกก็จะแตก ขอให้ได้ใช้ชีวิต ได้ทำและได้แสวงหาสิ่งที่ขาดในใจ และขอไปอยู่ที่ชอบ ๆ” ด้วยเทอญ (อันนี้ฉันเติมให้ค่ะ)
อุ๊แม่เจ้า!!! ช่างไม่น่าเชื่อว่าเรื่องนี้จะเคยเกิดขึ้นจริง ๆ ในชีวิตฉัน
ตอนแรกฉันอึ้ง งง เงียบ หัวใจแห้งผาก น้ำตาน้ำลาย ทุกอย่างมันแห้ง เหลือแต่ร่างกายที่ไร้ซึ่งวิญญาณ
สิ่งที่คิดได้คือ “ขอให้กลับมานอนบ้านทุกคืนได้มั๊ย” เขารับปาก...แต่สุดท้ายทุกอย่างมันก็เป็นไปตามวิถีมนุษยชาติที่ยังอยู่ใน...รัก โลภ โกรธ หลง
ความฉลาดและมืออาชีพของผู้หญิงคนดังกล่าว รวมไปถึงความยินยอมพร้อมใจของคนของเรา ไม่มีสวรรค์หรือเทพยาดาองค์ใด ๆ จะมายื้อยุดไว้ได้ สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือปล่อยน้ำตา เพียงหวังว่าสักวันคง จะได้คิดถึงลูก คิดถึงเมียที่เคยรัก เคยทะนุถนอมประมาณว่าริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แม้คำน้อยก็ไม่เคยพูดให้ช้ำจิต แต่ความหวังชักริบหรี่เต็มทน เหมือนจมอยู่ในโลกอีกโลกหนึ่ง
เราต้องนับถือในความสามารถเฉพาะทางที่ผู้หญิงคนนี้กระทำได้จริง ๆ เธอสามารถทำให้ผู้ชายคนหนึ่งผละออกจากคนรักที่คบหากันมานานถึง 28 ปี และพรากพ่อพรากลูกที่อยู่กันอย่างมีความสุขเกือบ 20 ปี เธอสามารถนำตัวเองเข้าไปอยู่ในบ้านพักข้าราชการของผู้ชายภายในจังหวัดเดียวกันกับที่ตั้งของครอบครัว และนำเสนอต่อสาธารณชนอย่างเปิดเผยมากขึ้นทุกวัน ๆ
ผู้ชายเริ่มแอบหนีงานมานั่งดื่มกับเธอในเวลางาน หนีไปทำธุระส่วนตัวกัน เขาเริ่มโอ้อวดหลงตัวเอง หลงใหลในอำนาจ วาสนา บารมี คิดว่าไม่มีใครสามารถทำอะไรเขาได้ เขาแยกแยะความเหมาะสม ความถูกต้องไม่ได้ ละเลยต่องานการแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนซึ่งผิดไปจากเดิม จากเดิมเขาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงมาก วันลาป่วย ลากิจ ลาพักร้อนไม่มี ป่วยเพียงใดดลก็ดันทุรังไป อะไรส่งเธอมาเกิดหนอ และสิ่งใดดลให้เราทั้งหมดต้องมาเกี่ยวข้องกันนะ เธอช่างสามารถเปลี่ยนคนได้ดีดังเช่นการพลิกฝ่ามือเสียจริง ๆ
มีคนอดทนรอไม่ได้มากมาย
ถามว่าทำไมฉันไม่ไปด่า ฉันตอบ “คงด่าไม่ทัน”
ถามว่าทำไมฉันไม่ไปตี ทำร้ายให้หายแค้น ฉันประเมินวาคงสู้ไม่ได้แน่ เธอเป็นคนที่ผ่านการดิ้นรนและใช้ชีวิตมาทุกรูปแบบ กระนั้นเลยฉันจะรอดจากการถูกตบเองซะมากกว่า แถมบางทีผู้ชายคนที่กำลังหลงเห็นนรกเป็นสวรรค์ช่วยซ้ำอีก เจ็บฟรีเปล่า ๆ
ถามว่าอยากฆ่าไหม...ก็อยากนะ แต่ยังมีสติรู้ว่า ไม่มีประโยชน์ใด ๆ เราเองต้องติดคุก ส่วนคนที่อยู่ข้างนอกสบายแฮ ฉันมานั่งทบทวนว่าฉันทำประการใดพลาดไปหรือ พอทบทวนแล้วก็เห็นเป็นประการฉะนี้...
1.ฉันมีประสบการณเรื่องเพศไม่มากพอ เพราะมันเป็นอาชีพของเธอผู้นั้น ฉันพ่ายแพ้เธอทั้งคุณภาพและปริมาณ
2.ดิฉันงก ทำแต่งาน ไม่ยอมลาออกเพื่อติดตามสามีไปทุกที่แบบที่เขาชอบเหมือน “มีหมาเฝ้าเจ้าของ” ทั้งในภารกิจการงานและนอกงาน
3.ฉันไม่ยอมเสียสละตัวเอง หลังเลิกงานแล้วไปคลอเคลีย “เอานมแนบแอบอิง” ตามร้านอาหารต่าง ๆ
4.ฉันไม่เคยดื่มเหล้า ทำให้เขาไม่รักเพราะเขาต้องการเพื่อนรู้ใจคอเดียวกัน
5.ฉันอ่อนแอ ใจไม่ถึง ไม่นักเลงพอ ไม่กล้าไปท้าตีท้าต่อยกับใครในสถานที่บันเทิง จนผู้พบเห็นต้องลากออกมาทั้งคู่
6. ฉันไม่ฉลาดในการหาช่องทางหาเงินที่สบาย เพราะฉันเล่นไพ่ไม่เป็น
7. ฉันไม่มีมนุษยสัมพันธ์ ไม่รู้จักสร้างสัมพันธภาพกับเพื่อนบ้านด้วยการเล่นไพ่ในยามที่สามีไปทำงาน ซึ่งอันนี้ต้องยกให้เธอ เธอสมบูรณ์แบบจริง ๆ
เวลาผ่านไป 6เดือน หวังลึก ๆ ว่าเขาจะนึกถึงวันชื่นคืนสุข ซึ่งก็ได้แต่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ
จากสถิติที่บันทึกไว้ในสมอง โทรศัพท์ถึงเมียราว 3ครั้ง แค่บอกกล่าวบางเรื่อง โทรหาลูกราว 3 ครั้ง
เพื่อบอกให้ลูกเตรียมของใช้ส่วนตัวที่ยังหลงเหลืออยู่ในบ้านแล้วให้ลูกเอาไปส่งให้
มันเป็นเพียงเสี้ยวเดียวที่บอกกล่าว...ความทุกข์ในใจมันมีแน่ แต่เราจะวางอย่างไร
สิ่งหนึ่งซึ่งท่องไว้เสมอว่า “จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับสามีชาวบ้าน” เพราะเรารู้ว่าตัวเองเจ็บปวดเพียงใด แต่กระนั้นผู้หญิงบางคนที่ผ่านผู้ชายมามากมาย มีลูกติด 3 คน และพบกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่าก็น่าจะเข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงด้วยกัน...
สุดท้าย “ผัวเขาเราไม่เกี่ยว...แต่นี่ผัวตรู”
ถ้าคำอธิษฐานสัมฤทธิ์ผล อยากขอให้เราพ้นจากบ่วงกรรมและบ่วงทุกข์ในครั้งนี้ และด้วยบุญกุศลที่สั่งสมไว้ ขอให้ผู้ชายคนนั้นมองเห็นนรกสวรรค์ด้วยใจและหลุดจากบ่วงแห่งกรรมกลับไปเป็นคนดีของสังคมในเร็ววันด้วยเทอญ โอมเพี้ยง...เอ๊ย...สาธุ ๆ ๆ
รักแท้คือการให้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารคู่สร้างคู่สม ปีที่ 33 ฉบับที่ 748 ศุกร์ที่ 8 มิถุนายน 2555 คอลัมน์ ผู้หญิงเมาส์แตก หน้าที่ 90 – 92
เหตุผล
ในธรรมชาตินั้นสร้างความสุขและความทุกข์ควบคู่เป็นเสมือนเพ็กเก็จทัวร์ ที่รายล้อมชีวิตมนุษย์เราซึ่งเป็นปุถุชนธรรมดาที่ยังตัดไม่ขาดเรื่องรัก โลภ โกรธ หลง ยอมต้องมีสุขและทุกข์คลุกเคล้าชีวิตคนเราเรื่อยมา ชีวิตคู่หรือชีวิตครอบครัวเช่นเดียวกัน ที่แรกก็เปรียบเสมือนกิ่งทองใบหยกที่เหมาะสมกันทุกอย่างเข้ากันได้เป็นอย่างดี ต่อมาก็เป็นลิ้นกับฟันที่ต้องกระทบกระทั่งกันบ้างเป็นธรรมดาของชีวิตคู่ พอมีปัญหาเข้ามาหนักขึ้นก็คู่กันเป็นไม้เบื่อกับไม้เมา และเมื่อปัญหาเริ่มหนักขึ้นทวีคูณก็เริ่มเป็นคู่เวรคู่กรรม และเป็นคู่สงครามที่ขับเคี่ยวกันอย่างเอาเป็นเอาตายจนต้องพ่ายแพ้กันไปข้างหนึ่ง ซึ่งไม่ได้นึกถึงความรักที่เมื่อครั้งอดีตที่รักและ ทนุถนอมทั้งกายทั้งใจ แต่เวลาย่อมทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ ตัวอย่างเรื่องที่นำมาเสนอเรื่องนี้ก็เป็นตัวอย่างของชีวิตคู่ที่ล้มเหลงคู่หนึ่ง โดยผู้เขียนได้ถ่ายทอดอารมณ์ของคนที่พ่ายแพ้ต่อความรัก ซึ่งปลดปล่อยอารมณ์และเล่าเรื่องราวผ่านตัวอักษร ที่มีการใช้ภาษาที่ค่อนข้างสละสลวย ลึกซึ่ง แม้เรื่องราวที่เล่าจะเป็นเพียงเรื่องเล่าธรรมดา หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องชาวบ้าน แต่เหตุผลที่ชื่นชอบคืองานเขียนนี้ คนเล่าแม้จะมีความทุกข์หนักหนาสาหัสจากการถูกแย่งชายอันเป็นรักไปแต่กลับถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกที่ปะปนความสนุกขบขัน และอมยิ้มตลอดเวลา มีการเขียนที่เน้นอารมณ์ความรู้สึก ประโยคบอกเล่า ประโยคข้อร้องที่อ้างสาเหตุและผลได้ลงตัวชัดเจน ทำให้ผู้อ่านมีอารมณ์ร่วมกับความทุกข์ครั้งนี้ด้วย ความทุกข์ที่หนักหนาแต่กลับชี้แจงรายละเอียดของความทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ให้เล็กลงโดยใช้ปากกาสื่อความหมาย อารมณ์ ความรู้สึก ให้ผู้อ่านได้ยิ้มและมีความสุขกับเรื่องเล่าเพียงไม่กี่หน้ากระดาษได้อย่างน่าทึ่ง
จัดทำโดย
นายชัยภัทร บุรีรักษ์ รหัส ๕๒๑๑๒๕๒๐๐๒๗
ชอบมากเลยอ่ะ
ตอบลบ